คอลัมน์ รหัสหนังสือ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๐
โดย เด็กชายก้อง twitter @dekchildkong
"..ผมไม่ได้เขียนบทความเหล่านี้ในฐานะผู้รู้ ที่จริงแล้ว เรื่องราวและผู้คนในบทความที่ผมเขียนถึง กลับเป็นผู้สอนผมให้ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากขึ้น.."
ในบางวันของชีวิต คุณเคยคิดหรือไม่ว่าโลกเราใบนี้ช่างเสียงดังเสียนี่กระไร
จนคุณคิดว่า ถึงเวลาแล้วนะที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง มากไปกว่าการก้มหน้ายอมทนฟังเสียงเหล่านั้นต่อไป
"โตมร ศุขปรีชา" เป็นคนหนึ่งที่คิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะไม่ยอมทน และลุกขึ้นมาตะโกนคำว่า "หนกขู" เสียงที่เพี้ยนไปจากคำว่า "หนวกหู" เมื่อต้องตะโกนออกมาดังๆและเร็วๆ
ผ่านหนังสือ "รื่นรมย์ในโลกหนกขู" ซึ่งรวบรวมบทความ "World Wide Watch" ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร GM Plus ในช่วงปี 2547-2548 พิมพ์ครั้งแรกเมษายน 2550 โดยสำนักพิมพ์มติชน ความหนา 160 หน้า ราคา 120 บาท
เนื้อหาภายใน "โตมร" ได้นำผู้อ่านไปเรียนรู้เรื่องราวต่างๆในโลกนี้ บอกเล่าและเปรียบเทียบเรื่องราวโน้นนี่
หลายเรื่องเปรียบเทียบกับเรื่องราวในประเทศไทย
ทั้งการเปรียบเทียบเรื่องการเล่นคำของ "จอร์จ บุช" ในกรณีปลาแซลมอนกับกรณีคนจน
รางวัลอิกโนเบลกับสังคมไทยแบบ A Bug's Life
กรณีฟิวชันฟูดกับสัตว์ฟิวชัน
แง่มุมที่มองสิงคโปร์ ซึ่งอาจแตกต่างจากความคิดของคนไทยหลายๆคน
สภาพของกรุงเทพฯ ที่เขาบอกว่า รื่นรมย์ไปด้วยเสียงหนกขูและคำสาปแช่ง
"โตมร" บอกถึงการเขียนหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า..
"ผมไม่ได้เขียนบทความเหล่านี้ในฐานะผู้รู้ ที่จริงแล้ว เรื่องราวและผู้คนในบทความที่ผมเขียนถึง กลับเป็นผู้สอนผมให้ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากขึ้น"
"และนั่นก็คือการพยายามขยายขอบฟ้าของตัวเองออกไปให้กว้างที่สุด เท่าที่สมองน้อยๆนี้จะทำได้"
"เราอาจไม่มีวันเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้หมดสิ้น"
"แต่เพราะมันไม่รู้จักหมดสิ้นนี่แหละ จึงยังทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อเรียนรู้"
เมื่อปิดหน้าสุดท้ายลง
ทำให้คิดได้ว่า การติดตามเรียนรู้เรื่องต่างๆที่เขานำมาเสนอ ช่างร้ายกาจยิ่งนัก
บางเรื่องอาจจะทำให้ผู้อ่านหัวเราะได้ทั้งน้ำตา
บางเรื่องก็อึ้งจนยากที่จะหัวเราะออกมาได้
และบางเรื่องตั้งคำถามให้ผู้อ่านได้คิดต่อว่า
คุณยังจะทนรับสภาพที่น่าหนกขูต่อไป หรือจะลุกขึ้นมาตะโกนร่วมกับเขาว่า "หนกขู"...
..........................
วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
หนกขู
28.11.53
๐